" มิงกะลาบา ……. สวัสดีครับท่านผู้อ่าน "
วันนี้ผมกล่าวทักทายท่านๆเป็นสำเนียงพม่า เพราะว่าเราจะมาเล่าเรื่องราวน่าสนใจในการเดินทางไปพม่ากันครับ ประเทศ พม่า ในสายตาของคนไทย นั้น เท่าที่ผมได้พูดคุยสัมผัสมาก่อนที่จะมาท่องเที่ยวที่นี่ ผมรู้สึกเช่นกันกับหลายๆท่านว่า คงเป็นเมืองที่ ผู้คน น่ากลัว ไม่เป็นมิตร และความเจริญล้าหลังมากๆ ปกครองด้วยทหารแบบไม่น่ามีใครมาทำธุรกิจได้ง่ายๆ ยิ่งมีข่าวบ่อยๆว่า ยังมีความวุ่นวาย ระหว่างชนเผ่าต่างๆ มีการปราบปราม โน่นนี่ มีคนเสียชีวิต อีกทั้งเรื่องราวของชาวโรฮินยา ที่ ประเทศไทยมีการเสนอข่าวที่ทางการไทยทั้งช่วยเหลือ ทั้งผลักดันออกนอกน่านน้ำเราตลอดเวลา อีกทั้งอาจจะประกอบกับเรื่องราวในตำราประวัติศาสตร์ไทยที่ พม่ากับไทยดูจะมีการรุกราน เผา ลอกทอง จนเราๆคนไทยก็จำฝังใจว่า ไม่ชอบคนพม่า ทั้งๆที่อันที่จริงเรื่องราวความจริงมันเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครที่รู้และประสพจริง มีชีวิตอยู่ยืนยันครับ ดังนั้น ผมขอท่านผู้อ่านว่า งานนี้เราหยิบอคติ ของเราออกไปก่อน แล้วมองพม่า แบบมุมมองขอนักลงทุน มุมมองของนักท่องเที่ยว มุมมองของประเทศเพื่อนบ้านที่รั้วติดกันมากๆ ก่อนนะครับ จะได้เรียนรู้ว่า มีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจในพม่า
การเดินทางมา แสนจะง่าย ถึงแม้ว่า การที่เราคนไทยจะเข้าประเทศพม่า
ยังจะต้องขอวีซ่า อยู่ แต่ในอนาคตอันไกล้นี้ก็ได้ข่าวมาว่า จะยกเลิกแล้วครับ ขณะที่ผมนั่งเขียนอยู่นี้
ก็ได้มีการประกาศเพิ่มเติมอีกหลายประเทศในอาเชียนที่ยกเลิกการขอวีซ่า ไปแล้ว
แต่จากการสังเกตูยังเป็นประเทศที่ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยงเดินทางมาครับ
ส่วนประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมามากๆ
ยังคงเป็นแค่ข่าว ก็น่าเห็นใจครับ เพราะหากได้รายได้มากมายจากการทำวีซ่า
ก็คงต้องคิดให้ดีก่อนว่าคุ้มหรือไม่กับรายได้และการลงทุนที่จะเข้าประเทศ
เรื่องสายการบิน ที่มาที่สนามบินหลักของพม่า คือ ย่างกุ้งและ
มัณท์ดาเลย์ ก็มีทั้ง การบินไทย
บากกอกแอร์เวย์ แอร์เอเชีย เวลาก็เหลื่อมๆกันครับ มีตั้งแต่ เจ็ดโมงเช้า ไปยัง
รอบค่ำ สองสามทุ่ม ก็ตามสะดวกเวลาและกระเป๋า เพราะถ้าวางแผนดีๆ ตั๋วไปกลับ ราคาแค่
สามพันบาท สบายๆ ครับ แต่ถ้าไปทีจี รักคุณเท่าฟ้าของเรานั้น ก็หมื่นนิดๆ ครับ
เลือกได้ตามฐานะกันเลย
ใช้เวลาบินราวๆหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาที ที่เขาประกาศ แต่วันไหนปลอดโปร่ง นักบินรีบๆ
อาจจะอากกลับบ้านไว บินราว50นาทีผมเคยเจอมาแล้ว ครับ
กินข้าวยังไม่เสร็จบอกเครื่องจะลงแล้ว
ใช้เวลาเดินทางแบบนี้ ราคาแบบนี้ เราเดินทางมาสำรวจตรวจตรา
หาอะไรทำกันได้บ่อยๆครับ แต่อาจจะติดอยู่ที่ว่า
ค่าโรงแรมที่พักจะแพงเอาการเพราะว่า คนแห่กันมา มากมาย ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น
เวียดนาม สิงค์โปร์ ไทย ก็ เลยสบายเจ้าของโรงแรมเขาหละครับ คืนนึง
สองสามพันบาทนี่ถือว่าถูกครับ ดังนั้นหากหาที่พักกับเพื่อนๆ หรือ
ห้องพักเพื่อนๆที่มาทำงานที่นี่ได้ก็คงจะประหยัดโขเลย
บินลงย่างกุ้ง(YANGON)มา ผมเองมีจุดมุ่งหมายคือ ไปสำรวจตลาดเครื่องเสียง
รถยนต์ ของเขา ดังนั้น ก็หาข้อมูลไว้แล้ว ครับว่า ตลาด ขายรถและพวกตกแต่งรถ
มีสองสามแหล่งครับ โดย เดิมมีตลาดรถยนต์อยุ่ไกล้ๆห้างใหญของที่นี่ชื่อ Junction
squre ครับ แต่ตอนนี้เล็กลงเพราะได้มีการย้ายตลาดรถไปอยู่ที่
อาคารใหญ่ของรัฐบาลที่เรียกว่า Old Thiri mingala zay(โอลด์ ตรีรี่ มิงกาลาเซย์)
ซึ่งตึกนี้เองเดิมเคยเป็นตลาดขายส่งพวกฝัก อยู่ละแวกเดียวกันกับท่าเรือ
คือริมแม่น้ำย่างกุ้งเลยครับ ก็เท่ากับว่า ถ้าเป็นตลาดรถยนต์
ท่านมาดูได้สองเหล่งใหญ่ๆครับ คือ ที่เก่าที่ก็ยังมีร้านอยู่พอสมควรเลย และที่ใหม่
ที่กว้างขวาง มีรถจอดขายอยุ่ไม่น่าตำกว่าห้าหกร้อยคันได้ครับ
ที่นี่ นั้น ตลาดเครื่องเสียงรถยนต์
ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเรามากมายแบบหน้ามือหลังมือครับ
ดังนั้นหากมาแนวเก่งมาจากบ้าน อาจมาเว็งที่นี่ก็ได้ครับ
เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่นี่นั้น แตกต่างจริงๆ คงเปนสาเหตุจากรถที่มีจำหน่ายที่พม่านี้
มากกว่า90%นั้นเป็นรถ มือสองที่ปลดระวางมาจากญี่ปุ่น เลย
ท่านๆคงพอนึกภาพตามได้ละครับว่า รถมาจากญี่ปุ่น ใช้งานมาราวๆเกือบ10ปี
มีอุปกรณ์ตกแต่งจากโรงงานมาเต็มเหนี่ยว ทั้งเนวิเกเตอร์ ทีวี ดีวีดี Hard
disc
มาครบแบบจัดเต็ม แถมต่อเข้ากับonboardของรถมาเลย
ทีนี้แหละครับ ใครจะอยากเปลี่ยนน้อ .....
ส่วนพวกที่เป็นรถถูกๆหน่อยก็กลุ่มแท็กซี่ ครับ
ที่เอารถไม่ค่อยมีอ้อฟชั่นมาใช้กัน แต่พวกนี้ งบน้อยมากๆๆๆๆๆ มากจน
สินค้าราคาถูกจากจีน เอาไปรับประทานเรียบเรย
ไม่ค่อยหลุดมาถึงพวกมี่ยี่ห้อราคากลางๆ ซักเท่าไร
ผมเองก็มาเดินๆ ในตลาดเครื่องเสียง เจอพวกร้านค้า ที่มาเมืองไทยบ่อยๆ
อ่านหนังสือบ้านเราบ่อยๆ จำกันได้ครับ ดีใจมาทักใหญ่เลย
(รู้สึกดีจังมีคนรู้จักไปทั่ว เหมือนจะดัง อิ อิ ) พาไปเลี้ยงข้าวซะงั้น
แถมพาไปร้านอาหารไทยซะด้วยครับ ได้เพื่อนมาสองสามคนอย่าง งง งง ครับ แต่ดีครับ
เบื้องต้นนี้ เหตุที่ รถยนต์ วิ่งกันให้ว่อนและจอดขายกันเป็นล่ำเป็นสัน
เพราะเมื่อหกเดือนที่ผ่านมานี้ โครงสร้างภาษีรถยนต์เขาได้ปรับใหม่ครับ
เมื่อก่อนจะซื้อรถได้นี่ต้องระดับมหารวยครับ
แต่ตอนนี้กลายเป็นคนปานกลางก็ซื้อได้เพราะภาษีนำเข้าถูกลงมากๆ แถมล่าสุดเพิ่งลดภาษีนำเข้ารถปิคอัพด้วยแล้ว
รับรองว่าอีกสามสี่เดือนท่านจะเห็นรถปิคอัพเกลื่อนย่างกุ้ง ทั้งๆที่มองไปตอนนี้
แทบไม่เห็นเลยครับ ตอนนี้ซื้อรถง่ายขึ้น
จดทะเบียนไม่ลำบาก แต่ทว่า ถนน ที่กำลังเริ่มทยอยทำ ผมว่า ไม่ทันกับจำนวนรถแน่ๆ
ครับปัญหารถติดจึงเกิดขึ้นแล้วในย่างกุ้ง แบบหลีกไม่พ้นครับ แต่ในด้านการลงทุน
ข่างแบบน้ ถือว่าดีมากครับ เพราะมันส่งเสริมการค้า การขนส่ง และการพานิชญ์ แน่นอน
ยิ่ง สหรัฐอเมริกานั้น มีการมาลงทุนตรงๆหลายธุรกิจ
ยิ่งทำให้ภาพของรัฐบาลที่กำลังเดินทางสู่ประชาธิปไตยมากขึ้น มันชัดเจนกว่าเก่า
เพิ่มความมั่นใจให้ชาวต่างชาติ
เอาเป็นว่า ผมอยากกินอาหารชาติไหน ก็หาได้ไม่ยากครับ โดยเฉพาะ ไทย
กับเกาหลี มีทุกหัวระแหง ร้านอาหารไทย
มาเปิดอย่างดอกเห็ด แล้วก็ล้วยขายดิบขายดี
ขยายร้านกันใหญ่ภายในเวลาไม่กี่เดือน
ส่วนร้านเกาหลีชอบไปอยุ่บนห้างครับ
อยากกินบิมบีบัพ หาง่ายกว่าเมืองไทยหละ
เครื่องสำอางเกาหลีมีมากกว่าเมืองไทยครับ
เพราะนักลงทุนเกาหลีน่าจะมาที่ย่างกุ้งนี้มากที่สุดครับ จะสุกี้แบบเกาหลีSK
suki ใหญ่โตสองสามสาขา
อีกทั้งร้านก๋วยเตี๋ยวเกาหลีชื่อร้านKYKO อะไรเนี่ยมีแทบทุกห้างครับ
ก๋วยเตี๋ยวชามเบ้อเร้อ กินจนเหนื่อยครับ
จะเนื้อย่างแบบเกาหลี มีเพียบ
ส่วนอาหารไทย เริ่มมีพวกหมูกระทะ มา มีร้านอีสานมา
มีร้านอาหารไทยดีๆที่มาเปิดที่นี่มากมายครับ ส่วนสุกี้ โคคา มาเปิดนานมากแล้วครับ
แต่ก็เพิ่งย้ายที่ตั้งและปรับปรุงความสวยงามครับ คนแน่นมากๆแบบต้องจองโต้ะเลย ร้านอาหารฟูจิ เท่าที่เห็นมีอย่างน้อยสองครับ
ตกแต่งเหมือนเมืองไทยเลยครับ เอาเป็นว่า
เรื่องอาหารการกิน ถ้าอยู่ในย่างกุ้ง มิต้องกังวล หาอาหารคุ้นเคยของเราๆท่านๆ
ทานได้สบายครับ สงสัยว่า
ฉบับนี้จะต้องพอกันก่อน แล้วผมมาเล่าต่อกันในตอนต่อไนะคร้าบ
MICKEYMOUSE
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น